เทคนิคปิดการขายของเซลส์มืออาชีพ

      นักขายหลายท่านอาจประสบปัญหาไม่สามารถปิดการขายได้ ทำให้ยอดไม่เดิน และถูกหัวหน้าเพ่งเล็ง ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดียิ่งขายได้ยาก ท่านผู้รู้ในวงการขายแนะนำไว้ว่า ให้จับสัญญาณความพึงพอใจของลูกค้าให้ได้ เช่น เมื่อลูกค้าถามในทำนองว่า ลดได้ไหม หรือจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ไหม หรือสัญญาณอื่น ๆที่แสดงว่าลูกค้าพร้อมจะซื้อสินค้าจากคุณแล้ว ให้เริ่มหาจังหวะปิดการขายเหมาะ ๆ ซึ่งเทคนิคการปิดการขายมีดังนี้

1. เพิ่มเติมความคิดเห็นของตัวคุณเองต่อสินค้านั้นเข้าไป

          เพื่อเป็นข้อมูลให้ลูกค้าใช้ประกอบการตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น เช่น คุณคิดว่าสินค้าชิ้นนี้คุ้มค่าที่สุด เพราะมีหลายฟังก์ชั่นในชิ้นเดียว แถมยังทนทาน และประหยัดไฟมากกว่า วิธีการนี้คุณจะต้องทำบุคลิกให้เป็นคนที่น่าเชื่อ มีความเป็นมืออาชีพ พูดคุยกับลูกค้าแบบเพื่อนบอกเพื่อนด้วยความจริงใจ ให้ข้อมูลที่เป็นจริง ก็จะสามารถโน้มน้าวใจลูกค้าได้สำเร็จ

2. โอกาสสุดท้าย หมดแล้วหมดเลย

          เป็นเทคนิคที่จะทำให้ลูกค้ารีบตัดสินใจ เนื่องจากเป็นวันสุดท้าย ของชิ้นสุดท้าย ครั้งเดียวในรอบปีที่จะซื้อได้ในราคาลดพิเศษ หรือมีโปรโมชั่นล่อใจ จูงใจลูกค้าด้วยของแถม หรือส่วนลด เช่น ซื้อ 3 ชิ้นจ่ายในราคา 2 ชิ้น หรือ ซื้อคอนเทคเลนส์วันนี้แถมน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ฟรี 1 ขวด เป็นต้น เพื่อย้ำให้ลูกค้าตระหนักว่าควรซื้อสินค้าในตอนนี้จะเหมาะสมที่สุด

3. ถามคำถามที่ทำให้ลูกค้าตอบ “ใช่” ไปเรื่อย ๆ

          เป็นการค่อย ๆ ตั้งคำถาม เพื่อนำไปสู่คำตอบที่ว่า สินค้าของคุณมีคุณสมบัติที่ครบถ้วนตรงตามความต้องการของลูกค้าทุกประการโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

4. ชี้นำให้ลูกค้าเลือกว่าจะซื้อสินค้าแบบไหน

          เทคนิคการปิดการขายแบบนี้จะไม่เปิดช่องให้ลูกค้าปฏิเสธ เพราะไม่ได้ถามให้ลูกค้าเลือกว่าลูกค้าต้องการหรือไม่ แต่ให้ถามว่าต้องการแบบไหน สีอะไร ระหว่างสีนั้นกับสีนี้ และต้องการจำนวนเท่าไร กี่ชิ้นหรือกี่โหลดี

5. เร่งรัดให้ตัดสินใจ

          เมื่อเห็นว่าลูกค้าใช้เวลาเลือกสินค้าอยู่นานแล้ว และคุณยังไม่ได้รับสัญญาณซื้อใด ๆ จากลูกค้า คุณอาจใช้เทคนิคเร่งรัดนิดหน่อย โดยอาจสรุปเอาเองเลยว่าลูกค้าตกลงใจซื้อแล้ว เช่น ถามว่าจะชำระด้วยเงินสด หรือบัตรเครดิต หรือถามว่าจะให้จัดส่งของไปที่ไหน  โดยไม่จำเป็นต้องถามว่าลูกค้าต้องการซื้อหรือไม่ เพราะหากลูกค้าไม่ต้องการซื้อก็จะปฏิเสธข้อเสนอของคุณ แต่หากลูกค้าไม่ปฏิเสธก็เท่ากับว่าลูกค้าตกลงซื้อสินค้านั้น

6. ประเมินยอดที่ควรสั่งซื้อแทนลูกค้า

          เพื่อช่วยลูกค้าในการตัดสินใจ ใช้ในกรณีที่เป็นลูกค้ากันมายาวนาน คุณสามารถประเมินได้ว่าลูกค้าควรจะสั่งสินค้าในปริมาณเท่าไรจึงจะเหมาะสม โดยคุณต้องยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นเป็นที่ตั้ง เช่น บอกลูกค้าว่า ครั้งที่แล้วลูกค้าสั่งสินค้า 10 โหล ขายหมดภายใน 1 สัปดาห์ ครั้งนี้น่าจะสั่งเพิ่มเป็น 15 โหล ลูกค้าเห็นด้วยหรือไม่

          6 เทคนิคข้างต้นไม่อยากเลยใช่ไหมคะ ลองหาจังหวะปิดการขายโดยเลือกนำวิธีการที่ได้แนะนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมตามแต่สถานการณ์และเหมาะกับสินค้าของคุณ แล้วคุณจะพบว่า ปิดการขายง่ายนิดเดียว

ไม่มีความคิดเห็น

Natthapol_oat. ขับเคลื่อนโดย Blogger.